อาหารเพื่อสุขภาพ ประโยชน์ของการกินตับ เรามากินตับกันเุถอะ
ไปเที่ยวกันไหม.... จะไปก็รีบไป.....ไปกับพี่แล้วสบาย เด๋วพี่พาไปกินตับ ตับๆๆๆๆๆๆ เมื่อประมานเดือนที่แล้วเพลงนี้เป็นอะไรดังมากๆ สร้างความบันเทิงและกระแสการกินตับอย่างกว้้างขวาง 555 วันนี้จึงหยิบยกประเด็นประโยชน์จากการกินตับมาเล่าให้ฟัง
ตับนั้นมีประโยชน์มากมาย จัดได้ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชั้นดีอย่างหนึ่ีงก็ว่าได้ จะเห็นได้ว่าพ่อแม่มักจะให้เด็กเล็กๆทานตับบดเป็นอาหาร อีกทั้งตับยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ตับปิ้ง ตับหวาน ใส่ในผัดผักต่างๆไม่ว่าจะเป็นผัดขิงใส่ตับไก่ เป็นต้น นอกจากนี้ในสุกี้ Mk ยังมีตับขายเลย เอาตับสดมาลวกในหม้อสุกี้เดือดๆให้พอสะดุ้ง หวานอย่าบอกใครเชียว อร่อยขนาดไหนก็ตุ๊กแกยังชอบกินตับเลย ... 5555
ส่วนประกอบส่วนใหญ่ของตับก็จะเป็นโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
นอกจากนี้ตับยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ ช่วยสร้างและบำรุงรักษาผิวหนังและผนังเยื่อจมูก ช่องในลำไส้ ทำให้เนื้อเยื่อในตาแข็งแรง
วิตามิน บี 2 ทำให้ผิวมีสุขภาพดี สายตาดี มองเห็นได้ชัดในที่ที่มีแสงสว่างน้อยมากินตับกันเถอะ |
ส่วนประกอบส่วนใหญ่ของตับก็จะเป็นโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
นอกจากนี้ตับยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ ช่วยสร้างและบำรุงรักษาผิวหนังและผนังเยื่อจมูก ช่องในลำไส้ ทำให้เนื้อเยื่อในตาแข็งแรง
วิตามิน บี 3 ทำให้ผิวหนัง ประสาท และลำไส้มีสุขภาพดี ระบบย่อยเป็นปกติ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิตามิน บี 5 ทำให้ร่างกายนำคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
วิตามิน บี 6 สร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ๆ ให้กับร่างกาย
วิตามิน บี 12 บำรุงประสาทให้แข็งแรง ทำให้สมองทำงานได้ดี ความจำดี และทำให้การสร้างเลือดเป็นปกติ
ที่สำคัญ ตับจะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบหมุนเวียนเลือด ช่วยเสริมสร้างฮีโมโกบิน (Hemoglobin) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงที่ไว้ใช้จับกับออกซิเจนเพื่อให้ออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนั้นผู้ที่เสียเลือดมากเช่นผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ก็ควรทานตับเพื่อช่วยเสริมสร้างการสร้างเม็ดเลือดที่เสียไป
แต่ถึงแม้ตับจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากรับประทานมากไปก็ส่งผมเสียได้เช่นกัน อะไรที่มันเกินไปมักจะไม่ดีเสมอเนื่องจากตับเป็นส่วนที่กำจัดสารพิษ ซึ่งอาจจะมีสารพิษตกค้างได้บ้าง นอกจากนี้ ตับไก่ มีสารที่เรียกว่า อะมิโน-พาราเอ็ธฟีนอล (Amino-paraethenol) สารชนิดนี้มีฤทธิ์ต่อ หลอดเลือดแดงในสมองทำให้แข็งตัว ถ้ากินตับไก่มากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีอาการของ โรคไมเกรน มีอาการปวดหัวข้างเดียวเป็นเวลานาน จนกระทั่งอาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือตาบอดข้างเดียวตามมาได้ รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมองโรคความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีอาการปวดหัวข้างเดียวบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการกินตับไก่ และผู้ป่วยที่เป็น thalassemia ที่ได้รับเลือดเป็นประจำไม่ควรกินตับเพราะทำให้เหล็กเกิน ไปสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ อาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น